LINE : @JUAD888v1 Telegram : @JUAD888V1
×
@JUAD888V1
เมื่ออยากเล่นคาสิโน ให้นึกถึง JUAD888 เว็บพนันออนไลน์ ที่มีเกมส์คาสิโนจากทุกค่าย รวมเอามาไว้ให้เล่นในเว็บเดียว SA GAMING , SEXY GAMING , PG , PRETTY GAMING และ GAMEPLAY อยากเล่นคาสิโนออนไลน์ เซ็กซี่บาคาร่า สล็อต ไฮโล เสือมังกร เกมส์ยิงปลา หรือเกมส์พนันอื่นๆ เรามีทีมงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ปลดล็อกความลับของการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์

คุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในเสน่ห์ของเกมไพ่บาคาร่าหรือไม่? คุณอยากเพิ่มโอกาสในการชนะและสร้างกำไรจากการเดิมพันหรือเปล่า? ถ้าใช่ล่ะก็ คุณมาถูกที่แล้ว! Juad888 เว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ชั้นนำ จะพาคุณไปสำรวจโลกของบาคาร่าและไขความลับเกี่ยวกับอัตราต่อรองและการจ่ายเงินที่หลากหลาย

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้เล่นที่มีประสบการณ์ บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นสำหรับการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ เราจะนำคุณผ่านพื้นฐานของเกม อัตราต่อรองสำหรับการเดิมพันแต่ละประเภท และอิทธิพลของขอบบ้าน นอกจากนี้ เรายังจะสำรวจตัวเลือกการเดิมพันข้างที่น่าตื่นเต้น ซึ่งสามารถเพิ่มความหลากหลายและโอกาสในการสร้างกำไรให้กับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณ

ด้วยความรู้ที่ได้รับจากบทความนี้ คุณจะมีความมั่นใจและความเข้าใจในการเดิมพันบาคาร่าบนแพลตฟอร์ม Juad888 มากขึ้น เตรียมพร้อมที่จะปลดล็อกความลับ เสริมทักษะ และเพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นของเกมไพ่สุดคลาสสิกนี้ ไปกับเรา Juad888 คาสิโนออนไลน์ที่จะมอบประสบการณ์การเดิมพันที่น่าประทับใจให้กับคุณ

ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับบาคาร่า

บาคาร่าอาจดูเหมือนเป็นเกมที่เล่นยากสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคย แต่ในความเป็นจริงแล้ว บาคาร่ามีความคล้ายคลึงกับแบล็คแจ็คตรงที่ใช้ผลรวมของแต้มในการตัดสินผลแพ้ชนะ โดยในบาคาร่านั้น ผู้ชนะคือฝั่งที่มีแต้มใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุด แม้ว่าบาคาร่าจะมีกฎและลักษณะเฉพาะตัว แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนจนเกินไป บางคนเปรียบการเดิมพันในบาคาร่าเหมือนกับการเดิมพันว่าเหรียญจะออกหัวหรือก้อย (แต่มีความเป็นไปได้ที่เหรียญจะตั้งขึ้นด้วย)

ก่อนที่เกมจะเริ่มต้น ผู้เล่นจะต้องวางเดิมพันอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ประเภท ได้แก่:

  • เดิมพันว่ามือของเจ้ามือ (Banker) จะชนะ
  • เดิมพันว่ามือของผู้เล่น (Player) จะชนะ
  • เดิมพันว่าจะเสมอ (Tie)

หลังจากวางเดิมพันแล้ว ทั้งผู้เล่นและเจ้ามือจะได้รับไพ่ฝั่งละ 2 ใบ ฝั่งที่มีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ โดยไพ่หน้า (J, Q, K) และไพ่ 10 จะมีค่าเป็น 0 แต้ม ส่วนไพ่ A จะมีค่าเป็น 1 แต้ม

ในบาคาร่าจะไม่มีการนับแต้มที่เป็นเลข 2 หลักโดยตรง หากผลรวมของไพ่เท่ากับหรือมากกว่า 10 แต้ม ให้ตัดเลขหลักหน้าทิ้งไป หรือให้หักออกจากจำนวนแต้มทั้งหมด 10 แต้ม เช่น ถ้าผลรวมเป็น 15 แต้ม ให้ตัดเลข 1 หลักหน้าออกไป จะเหลือ 5 แต้ม เป็นต้น

อัตราต่อรองในบาคาร่า

อัตราต่อรองในเกมคาสิโนมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่กฎบางข้อหรือรูปแบบการเล่นบางอย่างอาจส่งผลต่ออัตราต่อรองได้ ทั้งในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง ในบาคาร่า การเดิมพันทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวไว้ข้างต้น จะมีอัตราต่อรองที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว การเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) มักจะมีโอกาสชนะสูงที่สุด ในขณะที่การเดิมพันว่าจะเสมอ (Tie) เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก  ด้วยเหตุนี้ การเดิมพันฝั่งเจ้ามือจึงให้ผลตอบแทนต่ำที่สุด ส่วนการเดิมพันเสมอให้ผลตอบแทนสูงที่สุด

อิทธิพลของขอบบ้าน (House Edge)

ในทุกเกมคาสิโน ขอบบ้าน (House Edge) ทำให้คาสิโนมีโอกาสชนะมากกว่าผู้เล่นเสมอ ส่วนต่างเล็ก ๆ นี้เป็นรายได้ที่คาสิโนใช้ในการดูแลเว็บไซต์ ผลิตเกมใหม่ ๆ และจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน บาคาร่าเป็นเกมที่ค่อนข้างพิเศษตรงที่ผู้เล่นสามารถเดิมพันข้างคาสิโน (การเดิมพันฝั่งเจ้ามือ) ได้แม้จะเสียเปรียบจากขอบบ้านอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี การเดิมพันฝั่งเจ้ามือไม่ได้เป็นผลดีเสียทีเดียว เพราะผู้เล่นจะต้องเสียค่าคอมมิชชั่น 5% หากเดิมพันฝั่งเจ้ามือชนะ จึงควรทำความเข้าใจให้ดีระหว่างขอบบ้านและค่าคอมมิชชั่น ซึ่งไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

โดยทั่วไปแล้ว การเดิมพันฝั่งเจ้ามือถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในบาคาร่า แม้จะต้องเสียค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมก็ตาม ในขณะที่การเดิมพันเสมอนั้นถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไร

ขอบบ้านสำหรับการเดิมพันในบาคาร่ามาตรฐานมีดังนี้:

  • ฝั่งเจ้ามือ (Banker) – 06%
  • ฝั่งผู้เล่น (Player) – 24%
  • เสมอ (Tie) – 36%

ความสัมพันธ์ระหว่างขอบบ้านกับจำนวนเงินที่ผู้เล่นจะได้รับอาจไม่ชัดเจนในทันที แต่ขอบบ้านที่คาสิโนมีนั้นจะส่งผลให้โอกาสในการชนะ และจำนวนเงินที่ผู้เล่นสามารถชนะได้ในช่วงเวลาหนึ่งลดลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม โต๊ะบาคาร่ายังคงเป็นสถานที่ที่มีโอกาสชนะและอัตราการจ่ายเงินที่สูงมาก

การจ่ายเงินรางวัลและอัตราต่อรอง

ส่วนที่สำคัญที่สุดของเกมคาสิโนคือการจ่ายเงินรางวัลและอัตราต่อรอง เราจะแสดงรายละเอียดพร้อมหมายเหตุที่สำคัญบางประการในส่วนต่อไปนี้

การเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker)

  • อัตราต่อรองที่จะชนะเมื่อเดิมพันฝั่งเจ้ามือ คือ 45.86%
  • หากชนะ การจ่ายเงินรางวัลจะเป็น 1:1 (เท่าทุน)
  • ผู้เล่นต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น 5% หากเดิมพันฝั่งเจ้ามือชนะ ดังนั้น แม้ผลตอบแทนเมื่อชนะจะเป็นแบบเท่าทุน แต่ต้องหักค่าคอมมิชชั่นออกก่อนออกจากโต๊ะ

การเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player)

  • นี่คือการเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะชนะ
  • มีโอกาสเกิดขึ้น 44.63% ซึ่งต่ำกว่าการเดิมพันฝั่งเจ้ามือเล็กน้อย แต่ดีกว่าการเดิมพันเสมออย่างมาก
  • ผู้เล่นไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเมื่อเดิมพันฝั่งตัวเองชนะ เนื่องจากไม่ได้รับประโยชน์จากขอบบ้านที่ต่ำกว่า
  • การจ่ายเงินรางวัลเป็น 1:1 (เท่าทุน)

การเดิมพันเสมอ (Tie)

  • การเสมอเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นและเจ้ามือมีแต้มเท่ากัน
  • โอกาสที่จะเกิดการเสมอมีเพียง 9.51%
  • หากเสมอ เกมจะจบลงโดยไม่มีฝ่ายใดได้หรือเสีย (คืนเงินเดิมพัน)
  • การเดิมพันเสมอให้ผลตอบแทนที่สูง คือ 8:1

จะเห็นว่าการเดิมพันฝั่งเจ้ามือที่ชนะจะได้รับผลตอบแทนเพียง 95% ของเงินเดิมพัน เนื่องจากต้องเสียค่าคอมมิชชั่น 5% ในขณะที่การเดิมพันฝั่งผู้เล่นและการเดิมพันเสมอจะได้รับผลตอบแทนเต็มจำนวนตามอัตราการจ่ายที่กำหนดไว้

นอกจากการเดิมพันหลักทั้ง 3 ประเภทแล้ว ในบาคาร่ายังมีตัวเลือกการเดิมพันเสริมที่เรียกว่าการเดิมพันข้าง (Side Bets) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความตื่นเต้นและโอกาสในการชนะรางวัลที่สูงขึ้น การเดิมพันข้างเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละคาสิโน

การเดิมพันข้าง (Side Bets) ในบาคาร่า

การเดิมพันหลักในบาคาร่านั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกเบื่อหน่ายได้ แต่ด้วยการมีตัวเลือกการเดิมพันข้าง จะช่วยให้ผู้เล่นมีโอกาสวางเดิมพันในรูปแบบที่หลากหลายและมีช่องทางในการชนะรางวัลที่มากขึ้น

การเดิมพันข้างจะต้องทำก่อนที่เกมจะเริ่มต้นและมักจะมีอัตราจ่ายที่สูงกว่าการเดิมพันหลักซึ่งให้ผลตอบแทนสูงสุดเพียง 8:1 เท่านั้น การเดิมพันข้างหลายรูปแบบจะขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่นของเกมบาคาร่า ไม่ว่าจะเป็นแบบถ่ายทอดสด (Live Baccarat) หรือในคาสิโนจริง และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคาสิโนด้วย

การเดิมพัน All Red หรือ All Black

  • เป็นการเดิมพันสีของไพ่ที่ผู้เล่นหรือเจ้ามือจะได้รับ
  • มักจะให้ผลตอบแทนระหว่าง 22:1 ถึง 24:1

การเดิมพัน Bellagio Match

  • ต้องใช้ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเท่ากันทั้งหมด
  • หากเกิดขึ้นกับฝั่งผู้เล่นจะได้รับผลตอบแทน 75:1
  • หากเกิดขึ้นกับฝั่งเจ้ามือจะได้รับผลตอบแทน 68:1

การเดิมพัน Royal Match

  • มีเฉพาะในคาสิโนในลอนดอนเท่านั้น
  • เป็นการเดิมพันว่าไพ่ K และ Q จะปรากฏในไพ่ 2 ใบแรก
  • หาก K และ Q เป็นสีเดียวกัน จะได้รับผลตอบแทน 75:1
  • หาก K และ Q คนละสี จะได้รับผลตอบแทน 30:1

การเดิมพัน Big และ Small

  • เป็นการเดิมพันแต้มรวมของไพ่ 4, 5 หรือ 6 ใบ
  • อาจต้องใช้ไพ่ 3 ใบต่อฝั่ง
  • การเดิมพัน Big ในกรณีมีไพ่ 5 ใบ จะได้รับผลตอบแทน 0.54:1
  • การเดิมพัน Small ในกรณีมีไพ่ 4 ใบ จะได้รับผลตอบแทน 2:1

การเดิมพัน 3-Card Six

  • หากผู้เล่นและเจ้ามือได้แต้ม 6 จากไพ่ 3 ใบ จะได้รับผลตอบแทน 100:1
  • หากมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้แต้ม 6 จากไพ่ 3 ใบ จะได้รับผลตอบแทนเพียง 8:1

จากรายละเอียดของการเดิมพันข้างที่หลากหลาย จะเห็นว่ามีหลายกรณีที่จะต้องใช้ไพ่ใบที่ 3 ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนให้กับเกมบาคาร่าบ้าง ในกรณีปกติ ผู้เล่นหรือเจ้ามือสามารถขอไพ่ใบที่ 3 ได้หากผลรวมของไพ่ 2 ใบแรกยังไม่ถึง 6 แต้ม ซึ่งอาจส่งผลต่อแต้มสุดท้ายของเกมนั้น ๆ

ทำไมการเดิมพันฝั่งเจ้ามือจึงมีโอกาสชนะมากกว่า

เมื่อเข้าใจกฎการจั่วไพ่ใบที่สามแล้ว คุณจะเห็นได้ชัดเจนว่า ทำไมฝั่งเจ้ามือถึงได้เปรียบกว่าผู้เล่น ถึงแม้ว่าโอกาสชนะเดิมพันของทั้งสองฝ่ายจะใกล้เคียงกัน แต่ก็ไม่ได้เท่ากันเสียทีเดียว

โดยหลักแล้ว ฝั่งเจ้ามือจะจั่วไพ่ใบที่สามก็ต่อเมื่อมีความจำเป็น คือมีแต้มต่ำกว่าฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่ผู้เล่นจะต้องจั่วไพ่เพิ่มเมื่อมีแต้ม 0-5 เสมอ โดยไม่คำนึงว่าเจ้ามือมีแต้มเท่าไหร่ นั่นหมายความว่า ฝั่งเจ้ามือจะได้เลือกจั่วไพ่เมื่อมีโอกาสเพิ่มแต้มให้สูงขึ้น ในขณะที่ฝั่งผู้เล่นถูกบังคับให้จั่วไพ่โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์

ยกตัวอย่างเช่น สมมติผู้เล่นมีแต้ม 5 ไพ่ที่จั่วเพิ่มมีโอกาสทำให้แต้มดีขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด นั่นคือต้องจั่วได้ไพ่ที่มีแต้ม 1, 2, 3, หรือ 4 เท่านั้น ถ้าจั่วได้แต้ม 5 ขึ้นไป กลับจะยิ่งเสียเปรียบ ในทางตรงกันข้าม หากเจ้ามือมีแต้ม 5 ในขณะที่ผู้เล่นมีแต้ม 6 เจ้ามือก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงจั่วไพ่เพิ่ม เพราะมีสิทธิ์ชนะอยู่แล้วถ้าหยุดเพียงเท่านี้

กฎการจั่วไพ่ใบที่สามนี้เอง ที่ทำให้เจ้ามือมีโอกาสเพิ่มแต้มให้ได้มากกว่าฝั่งผู้เล่น ขณะเดียวกันก็เสี่ยงน้อยกว่าด้วย นี่คือสาเหตุที่ทำให้ฝั่งเจ้ามือมีโอกาสชนะมากกว่าเล็กน้อย แม้ว่าจะดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายเล่นด้วยกฎกติกาเดียวกันก็ตาม

การเดิมพัน Player/Dealer Pair

นอกจากการเดิมพันข้างที่กล่าวไปแล้ว ยังมีการเดิมพัน Player/Dealer Pair ที่น่าสนใจ โดยจะชนะเดิมพันหากไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งผู้เล่นหรือเจ้ามือเป็นไพ่คู่ (มีแต้มเท่ากัน) เช่น 8 และ 8 การเดิมพัน Player/Dealer Pair จะให้ผลตอบแทนที่ 11:1 ในกรณีที่ชนะ

การเดิมพัน Perfect Pair

ล้ายกับการเดิมพัน Player/Dealer Pair แต่ในกรณีนี้ ไพ่คู่ที่ได้รับจะต้องเป็นสีเดียวกันด้วย เช่น 10 โพดำ และ 10 โพดำ การเดิมพันนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่หากชนะจะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 25:1

 

การเดิมพันข้างเหล่านี้สามารถเพิ่มระดับความตื่นเต้นและความคุ้มค่าให้กับการเล่นบาคาร่าได้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นควรทำความเข้าใจในรายละเอียดและอัตราจ่ายของแต่ละการเดิมพันก่อนตัดสินใจลงเงิน ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการชนะและบริหารจัดการทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด